ทศวรรษ 1970 เวลาแห่งการเติบโต
หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ เจย์ แวน แอนเดล ให้คำมั่นว่า จะก่อสร้างโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ชนิดสเปรย์ขึ้นมาใหม่และจะกอบกู้ธุรกิจกลับคืนมา โรงงานที่พังพินาศได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และยอดขายยิ่งเติบโตมากขึ้นถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปลายทศวรรษนี้ รถบรรทุกของ แอมเวย์ต้องเดินทางมากกว่า 5.23 ล้านกิโลเมตร เพื่อจัดส่งสินค้าให้แก่นักธุรกิจแอมเวย์ นับล้านคน ขณะเดียวกันบริษัทก็ขยายกิจการออกไปยังต่างประเทศโดยเปิดตลาดใหม่ถึง 8 ประเทศใน 3 ทวีป จากจุดกำเนิดของธุรกิจแอมเวย์ ณ เมืองเอด้า
รัฐมิชิแกน ธุรกิจแอมเวย์ได้เติบโตอย่างรวดเร็วและเพื่อให้ทันต่อการขยายตัวทางธุรกิจ โรงงานผลิตสินค้าได้ขยายพื้นที่ออกไปยาวไกลเป็นระยะทางมากกว่าหนึ่งไมล์ จนเป็นโรงงานที่มีแหล่งผลิตพลังงานของตัวเอง มีโรงงานบำบัดน้ำเสีย พร้อมโรงงานรีไซเคิล มีรถรับ-ส่งพนักงานระหว่างอาคารต่างๆภายในโรงงาน และแผนกดับเพลิง
ทศวรรษ 1980 ธุรกิจพันล้านเหรียญสหรัฐ
นับเป็นครั้งแรกที่แอมเวย์มียอดขายมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ ธุรกิจแอมเวย์จึงได้ขยายสำนักงานใหญ่ ในเมืองเอด้า รัฐมิชิแกน และได้สร้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางแห่งใหม่ที่ซึ่งผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรีได้รับการวิจัยพัฒนาและผลิตขึ้น
แอมเวย์ยังเป็นผู้บุกเบิกคิดค้นผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ๆ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อาทิ เครื่องกรองน้ำแอมเวย์ ปัจจุบันพัฒนาเป็น เครื่องกรองน้ำอีสปริง (eSpring) ซึ่งยังคงครองส่วนแบ่งการตลาด ลำดับต้นๆในปัจจุบัน
ขณะเดียวกันผลตอบแทนสำหรับนักธุรกิจแอมเวย์ก็ได้รับการพัฒนาตามไปด้วย โดยมอบรางวัลให้มากยิ่งขึ้นเพื่อให้ยิ่งคุ้มค่ากับความพยายามทุ่มเทในการสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจของพวกเขา
แอมเวย์ตระหนักเรื่องความสำคัญของสิ่งแวดล้อม และได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็น "ผู้นำองค์กรธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมและเป็นผู้สนับสนุนการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม" โดยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ United Nations Environmental Programme Achievement Award ในปี 1989
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น